เนื่องจากสังคมโลกและสังคมไทยเป็นสังคมที่มีพลวัตสูงยิ่งและมีการเปลี่ยนแปลงทางกระบวนคิดวิเคราะห์ วิธีการปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัยและสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งในด้านนวัตกรรม ด้านการวิจัยและเทคโนโลยี อีกทั้งในเรื่องของการศึกษาในปัจจุบันที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อที่จะสร้างฐานกำลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีจึงมีส่วนในการสร้างบัณฑิต ด้วยการปลูกฝังนักศึกษาให้มีจิตสำนึกในการใฝ่เรียนรู้ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ตั้งแต่เป็น นักศึกษาใน มหาวิทยาลัย จนสำเร็จไปเป็นผู้ประกอบวิชาชีพแขนงต่าง ๆ ด้วยปณิธานในการสร้างบัณฑิตที่เก่งและดี ด้วยเหตุนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นที่รู้จักในกลุ่มโรงเรียนทั้งภาครัฐและเอกชนในแต่ละภูมิภาคต่าง ๆ ให้ได้ทราบถึงความสำคัญของการศึกษาในมหาวิทยาลัยฯ ทั้งหลักสูตรคณะ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกิดจากโครงการต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยฯ ที่มีขึ้น จึงได้จัดโครงการ Tour KMUTT เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อันดีระหว่างมหาวิทยาลัยฯกับโรงเรียนต่าง ๆ พร้อมให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาของนักเรียนต่อไปทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีจึงมีโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะให้ครูแนะแนวและนักเรียนนักศึกษาได้เห็นถึงศักยภาพและความสำเร็จของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อีกทั้งยังประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีอีกด้วย และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญเพื่อเป็นแนวทางการศึกษาต่อของเด็กนักเรียนที่มีความประสงค์ที่จะศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
โดยกิจกรรมครั้งนี้จะเริ่มในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 โดยจะเปิดรับสมัครด้วยกันทั้งหมด 6 คณะเรียบเรียงได้ดังนี้
- คณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นจำนวนทั้งหมด 150 คน
- คณะวิทยาศาสตร์เป็นจำนวนทั้งหมด 300 คน
- คณะเทคโโลยีสารสนเทศ 100 คน
- คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมเทคโนโลยี 100 คน
- คณะสถาปปัตยกรรมศาตร์และการออกแบบ 100 คน
- โครงการร่วมบริหารหลักสูตรมีเดียอาาตส์และเทคโนโลยีมีเดีย 100 คน
โดยผู้สมัครจะต้องเป็นนักเรียนหรืออาจารย์แนะแนวของโรงเรียนก็ได้โดยผู้มีความสนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที http://www.tour.kmutt.ac.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น